จับช้างชนช้าง กลยุทธ์ใหม่ หนัง-ละครไทย เรตติ้งกระฉูด

4 ธ.ค. 60 เวลา 15:26 น.

หากเปรียบอาหารเมนูเด็ดกับละครดีๆ ที่โดนใจนั้นมีความเหมือนกันอย่างไร คำตอบก็คือการเลือกสรรวัตถุดิบมาประกอบอาหารกับการปรุงรสอย่างประณีตและบรรจง 

บ้างก็ใช้วัตถุดิบหลักเพียงหนึ่งอย่างเพื่อชูรสชาติของสิ่งนั้นให้มีความโดดเด่น บ้างก็เลือกผสานวัตถุดิบที่ล้วนมีรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์มากกว่าหนึ่ง แต่เมื่อรวมไว้ในจานเดียวกันแล้วกลับมีรสชาติที่กลมกล่อมเข้ากันได้เป็นอย่างดี จนกลายเป็นอาหารจานเด็ดที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ลุกลามไปทั่วไทย!!

เช่นเดียวกับการจัดสรรเคมีนักแสดงในละครซักเรื่องหนึ่ง บางเรื่องเลือกใช้คู่พระนางเป็นตัวชูโรง ซึ่งหากได้คู่ที่มีเคมีเข้ากันได้ดีหรือมีฝีมือจัดจ้านก็ได้รับการพูดถึงในวงกว้างอยู่แล้วและถ้าบวกเข้ากับการกำกับที่ละเมียดละไมของผู้จัด รวมทั้งบทโทรทัศน์ที่ลื่นไหลไม่สะดุดก็จะส่งผลต่อเรตติ้งให้พุ่งฉิวอย่างแน่นอน

 

 

แล้วก็มีบางเรื่องที่เลือกให้มีนักแสดงที่ไม่ใช่เพียงแค่พระเอกกับนางเอกเหมือนเรื่องๆ อื่น แต่กลับเลือกนักแสดงตัวแม่ที่อยู่ในกรุ๊ปของ “นางเอก” แต่หนึ่งในสองนางเอกต้องพลิกมารับบท “นางร้าย” เพื่อฟาดฟันประชันฝีมือกับนางเอกของเรื่องอย่างเผ็ดร้อน

เพิ่มบวกกับฝีมือการปรุงรสจากผู้กำกับและบทโทรทัศน์ที่ทันกระแสสังคม ชวนให้ติตดามชมก็ถือเป็นแม่เหล็กที่ดึงดูดให้ผู้ชมที่ได้ลองลิ้มชิมรสเกิดติดใจรสชาติสุดอร่อย จนไม่สามารถเปลี่ยนใจไปทานอาหารใดๆ ได้อีก

ซึ่งที่ผ่านมาหากละครเรื่องไหนที่ใช้กลยุทธ์ “ช้างชนช้าง” ก็มักประสบความสำเร็จในเรื่องเรตติ้งทุกครั้งไป จึงทำให้คอละครจะได้เห็นการประชันบทบาทของนางเอกสองคนมาในทุกยุคทุกสมัยและละครหลายๆ เรื่องก็ยังคงติดตาตรึงใจอยู่ในความทรงจำของผู้ชมมาจนถึงในวันนี้

ยกตัวอย่างเช่นละครที่เป็นตำนานอย่าง “รากนครา” ซึ่งเมื่อครั้งออกอากาศทางช่อง 7สีก็มีกระแสฮือฮาเป็นอย่างมากเพราะเป็นการฟาดฟันกันระหว่าง “อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ” ในบทนางเอกอย่าง  “แม้นเมือง” กับ “มิ่งหล้า” ที่รับบทโดย “นุ่น-วรนุช ภิรมย์ภักดี” พอมาเป็นเวอร์ชั่นช่อง 3 ก็เปรี้ยงปร้างอีกครั้งกับฝีมือการแสดงของ “แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์” กับการพลิกบทบาทของ “มิว-นิษฐา จิรยั่งยืน”

แล้วก็ยังมีละครสุดแซ่บอย่าง “คมพยายาท” ซึ่งในเวอร์ชั่นแรกเป็นการปะทะฝีมือกันของนางเอก “ยุ้ย-จีรนันท์ มโนแจ่ม” และ “อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ” ในบทนางร้าย พอมาถึงเวอร์ชั่นรีเมคก็ได้จับนางเอกหน้าหวาน “นาว-ทิสานาฏ ศรศึก” ประชันกับ “เปรี้ยว-ทัศนียา การสมนุช” นากเอกแถวหน้าอีกคนของช่อง 7สี

ส่วนละคร “ดาวเปื้อนดิน” นั้นก็ได้รับความสนใจไม่น้อยไปกว่ากันเพราะเป็นการพลิกบทบาทของ “ชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เก็ต” จากนางเอกให้มาร้ายสุดขั้วพร้อมชน “นุ่น-วรนุช ภิรมย์ภักดี”  นางเอกของเรื่อง ทางด้านละคร “พระจันทร์ลายพยัคฆ์” ก็เป็นการกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งของ “อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ” และ “ยุ้ย-จีรนันท์ มโนแจ่ม” ร่วมด้วยพระเอกเนื้อหอม “เวียร์-ศุกลวัฒน์ คณารศ” ทำให้ละครเรื่องนี้กลายเป็นละครเรื่องโปรดของผู้ชมในเวลานั้นอย่างไร้ข้อกังขา

 

 

ในยุคต่อมาก็ยังมีการจับนักแสดงที่เป็นเหมือนแม่เหล็กของช่องมาชนกันอีกเรื่อยๆ อาทิ “สามีตีตรา” ที่กระแทกใจคอละครเข้าอย่างจังกับการฟาดฟันผีปากและอารมณ์กันของ “พลอย-เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์” กับ “จุ๋ย-วรัทยา นิลคูหา” รวมถึงละคร “กำไลมาศ” ที่ “จุ๋ย-วรัทยา” กลับมารับบทร้ายอีกครั้งเคียงข้าง “เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ” ที่รับบทนางเอก

ต่อด้วยละครสุดแซ่บ  “เมียหลวง” ที่เป็นการเฉือดเฉือดบทบาทระหว่างเมียหลวงอย่าง “จุ๋ย-วรัทยา” และ “คริส หอวัง” นางเอกสาวหมวยที่มารับบท “อรอินทร์” เมียน้อยจอมฉก ในส่วนของละครแห่งปี 2560 ก็ใช้กลยุทธ์นี้เช่นเดียวกันเพราะได้จับคู่ให้ “เบลล่า-ราณี แคมเปน” มารับบท “นางเอก” ประชันฝีมือกับ “เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ” ในบทบาทเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด

มาถึงละครที่เป็นปรากฏการณ์ยิ่งกว่าทอล์กออฟเดอะทาวน์อย่าง “เพลิงพระนาง” ก็ได้กระแสตอบรับสุดร้อนแรงเพราะนอกจากเป็นการคัมแบ็คสู่จอแก้วในรอบหลายปีของซูเปอร์สตาร์ “อั้ม-พัชราภา” แล้วก็ยังเป็นเพราะการกลับมาพบกันอีกครั้งของเธอและ “ยุ้ย-จีรนันท์” ในฐานะนักแสดงนำทั้งสองคน!!

 

 

ที่สำคัญอีกไม่นานนี้แฟนละครจะได้รับชมการปะทะฝีมือของสองนางเอก “มิน-พีชญา วัฒนามนตรี” และ “ปุ๊กลุก-ฝนทิพย์ วัชรตระกูล” ในละคร “นางทิพย์” ทางช่อง 7สี

ทั้งนี้ในส่วนของภาพยนตร์ที่ร่วมกลยุทธ์การรวมตัวของนักแสดงระดับแม่เหล็กก็คือ “Brother & Sister” หนังรักสายฮาเรื่องล่าสุดภายใต้ลายเซ็นของ GDH ที่รวบไว้ทั้งพระเอกที่เป็นซิกเนเจอร์ของค่ายอย่าง “ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์” กับไอดอลเกาหลีสมบัติของชาติไทย “นิชคุณ หรเวชกุล” ซูเปอร์สตาร์ของเอเชียและ “ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์” เจ้าหญิงของวงการบันเทิงที่เพียงแค่ประกาศชื่อนักแสดงนำทั้งสามก็มีแววว่าจะกวาดรายได้ทะลุร้อยล้านได้อย่างง่ายดาย

ทั้งหมดนี้จะเห็นได้ว่านอกเหนือจากเรตติ้งและเม็ดเงินที่พุ่งทะลุเพดานให้ทางช่องและต้นสังกัดได้ยิ้มจนแก้มแทบแตกแล้ว ผลประโยชน์อีกส่วนก็ตกเป็นของคนดูที่นอกจากจะได้รับชมละครและผลงานการแสดงของนักแสดงคนโปรดด้วยความสุขและความสนุกเพลินเพลินแล้ว 

ทุกคนก็ยังได้รับชมฝีมือการแสดงของนักแสดงระดับนางเอกที่มาประชันฝีมือเฉือนอารมณ์กันอย่างถึงพริกถึงขิง..เรียกว่าคุ้มซะยิ่งกว่าคุ้ม

ในอนาคตแฟนๆ ละครก็น่าจะได้อิ่มเอมกับการปะทะกันของนักแสดงชั้นนำอีกเรื่อยๆ อย่างแน่นอนเพราะเมื่อไหร่ที่ใช้กลยุทธ์นี้ก็รับประกับความสำเร็จได้เกือบ 100% อย่างแน่นอน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง